สำหรับการทำงานแบบจริงจังด้านธุรกิจแล้ว การแข่งขันเรื่องเวลา ความเร็ว คุณภาพ ความเสถียร และ ความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ นั่นทำให้โน้ตบุ๊คสำหรับองค์กรมีสิ่งที่โดดเด่นกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไป ดังนี้
ในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานของโน้ตบุ๊คสำหรับองค์กร มักจะมีซีพียู (CPU) ที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองได้รวดเร็ว มีแรม (Ram) เยอะ รองรับการทำงานได้แบบมัลติทาสก์หลายๆ อย่างได้พร้อมกัน มีพื้นที่เก็บข้อมูล (Storage) ถ่ายโอนข้อมูลได้เร็ว เข้าถึงข้อมูลได้ไว ประหยัดเวลา และมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่ทรงพลังเพียงพอต่อการใช้งาน แต่อาจจะไม่สูงเท่าระดับ Gaming หรือ Workstation ซึ่งเป็นอีกระดับนึง
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประมูลโน็ตบุ๊ค , ประมูล notebook, ประมูล คอมพิวเตอร์พกพา , ประมูล laptop , ประมูล netbook
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนด้านจอภาพ (Screen) มีความละเอียดสูง ในปัจจุบันมักจะใช้หน้าจอแบบขอบบาง ให้พื้นที่หน้าจอทำงานมากขึ้น บางรุ่นจะมี Anti-glare ป้องกันภาพสะท้อน มองจอภาพได้คมชัดสดใสทุกมุมมอง มีรุ่นที่รองรับปากกา ทัชสกรีน หมุน พับหน้าจอได้ ใช้พรีเซ้นต์ นำเสนองาน จดบันทึก ใช้งานได้หลากหลาย ตามสไตล์การทำงาน
ความคล่องตัว คือ จุดแข็งของโน้ตบุ๊คระดับองค์กร เพราะในการทำงานมักจะเดินทางบ่อยๆ ทำให้โน้ตบุ๊คหลายๆ ค่ายสร้างโน้ตบุ๊คที่มีจุดเด่นในเรื่องน้ำหนักเบา เพื่อตอบโจทย์ในการพกพา แต่ยังคงประสิทธิภาพไว้ไม่ต่างจากโน้ตบุ๊คทั่วไป หรือ อาจจะมีประสิทธิภาพมากกว่า ขึ้นอยู่กับสเปคที่เลือกใช้งาน
อีกเรื่องคือความทนทาน โน้ตบุ๊คระดับองค์กรจะมีมาตรฐานความทนทานที่สูงกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไป มีการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง (ราคาก็สูงตามเช่นกัน) ยกตัวอย่างเช่น อะลูมิเนียม (Aluminum), แมกนีเซียม (Magnesium), กระจกนิรภัย (Tempered Glass) และ คาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon-fiber) ซึ่งก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันในด้านความทนทานและน้ำหนักที่เบา บางรุ่นก็ใช้การผสมโครงสร้างเพื่อให้มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบาควบคู่ไปด้วย
ผลจากการออกแบบที่ดีคุณภาพสูง ทำให้โน้ตบุ๊คระดับองค์กรมีความทนทานต่อการใช้งานมากกว่าปกติ เดินทางบ่อย ใช้งานหนักๆ ทนไม้ทนมือ ไม่ต้องกังวลว่าจะพังก่อน อย่างบานพับหน้าจอ พอร์ตเสียบใช้งาน ปุ่มแป้นพิมพ์ ทนต่อการเปิด - ปิด เสียบ กดใช้งานหลายหมื่น หลายล้านครั้ง เครื่องทนต่อแรงกระแทก การสั่นสะเทือน อุณหภูมิ บางรุ่นสามารถทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศหนาวเย็นติดลบ บนภูเขา ในป่า ทนต่อความชื้นได้นาน
สิ่งที่ขาดไม่ได้คืออายุการใช้งาน โน้ตบุ๊คสำหรับองค์กรมักจะถูกออกแบบมาให้มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไป รุ่นเริ่มต้นอาจจะใช้งานได้มากกว่า 5 ชั่วโมง หรือ 10 ชั่วโมงขึ้นไป บางรุ่นอาจจะนานถึง 24 ชั่วโมง (ตามที่สเปคระบุไว้) โดยไม่ต้องชาร์จเพิ่ม ก็สามารถใช้งานได้นานตลอดวัน ในขณะที่โน้ตบุ๊คทั่วไปใช้งานได้แค่ 2 - 3 ชั่วโมงก็แบตฯ หมดแล้ว ถึงโน้ตบุ๊คทั่วไปจะมีรุ่นที่ใช้งานได้นาน แต่ความเร็วและประสิทธิภาพจะไม่เร็วเท่า
ไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อ โน้ตบุ๊คสำหรับองค์กรจะมีพอร์ตและการเชื่อมต่อมาให้แบบครอบคลุม ในปัจจุบันก็ไม่ต่างกันมากกับโน้ตบุ๊คทั่วไปแต่แตกต่างที่ความเร็วในการรับส่งข้อมูลจะสูงกว่าในบางรุ่น พอร์ตแบบเสียบเชื่อมต่อมีหลายรูปแบบให้เลือก เช่น HDMI, Micro HDMI, Card Reader, RJ45, USB 3.1, USB-C, และ Thunderbolt 3 เป็นต้น ส่วนแบบไร้สายก็จะรองรับ Bluetooth, Wi-Fi 5, 6 แบบ ac และ ax เป็นต้น
โน้ตบุ๊คสำหรับองค์กรนั้นมีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูง มีการป้องกันและรักษาการเข้าถึงข้อมูลภายในทั้งในรูปแบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ มีการเก็บและเข้ารหัสผ่านความปลอดภัยในระดับสูง อาจจะมีฟีเจอร์สแกนนิ้วมือ ใบหน้า มีการป้องกันการคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต เพิ่มความอุ่นใจในขณะใช้งาน
Line : @buyall (มีเครื่องหมาย@ด้วย)
Email : info@panmakapmue.co.th
โทร : 081-9160211 , 081-9160211
รายชื่อ 77 จังหวัดของประเทศไทย ที่เรารับ ประมูลโน็ตบุ๊ค
1. ภาคเหนือ / 9 จังหวัด
1.จังหวัดเชียงราย
2.จังหวัดเชียงใหม่
3.จังหวัดน่าน
4.จังหวัดพะเยา
5.จังหวัดแพร่
6.จังหวัดแม่ฮ่องสอน
7.จังหวัดลำปาง
8.จังหวัดลำพูน
9.จังหวัดอุตรดิตถ์
———————————————————
2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ / 20 จังหวัด
1.จังหวัดกาฬสินธุ์
2.จังหวัดขอนแก่น
3.จังหวัดชัยภูมิ
4.จังหวัดนครพนม
5.จังหวัดนครราชสีมา
6.จังหวัดบึงกาฬ
7.จังหวัดบุรีรัมย์
8.จังหวัดมหาสารคาม
9.จังหวัดมุกดาหาร
10.จังหวัดยโสธร
11.จังหวัดร้อยเอ็ด
12.จังหวัดเลย
13.จังหวัดสกลนคร
14.จังหวัดสุรินทร์
15.จังหวัดศรีสะเกษ
16.จังหวัดหนองคาย
17.จังหวัดหนองบัวลำภู
18.จังหวัดอุดรธานี
19.จังหวัดอุบลราชธานี
20.จังหวัดอำนาจเจริญ
———————————————————
3.ภาคกลาง
มี 21 จังหวัด (กรุงเทพมหานครไม่ถือเป็นจังหวัด)
1.จังหวัดกำแพงเพชร
2.จังหวัดชัยนาท
3.จังหวัดนครนายก
4.จังหวัดนครปฐม
5.จังหวัดนครสวรรค์
6.จังหวัดนนทบุรี
7.จังหวัดปทุมธานี
8.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
9.จังหวัดพิจิตร
10.จังหวัดพิษณุโลก
11.จังหวัดเพชรบูรณ์
12.จังหวัดลพบุรี
13.จังหวัดสมุทรปราการ
14.จังหวัดสมุทรสงคราม
15.จังหวัดสมุทรสาคร
16.จังหวัดสิงห์บุรี
17.จังหวัดสุโขทัย
18.จังหวัดสุพรรณบุรี
19.จังหวัดสระบุรี
20.จังหวัดอ่างทอง
21.จังหวัดอุทัยธานี
———————————————————
4. ภาคตะวันออก / 7 จังหวัด
1.จังหวัดจันทบุรี
2.จังหวัดฉะเชิงเทรา
3.จังหวัดชลบุรี
4.จังหวัดตราด
5.จังหวัดปราจีนบุรี
6.จังหวัดระยอง
7.จังหวัดสระแก้ว
———————————————————
5. ภาคตะวันตก / 5 จังหวัด
1.จังหวัดกาญจนบุรี
2.จังหวัดตาก
3.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4.จังหวัดเพชรบุรี
5.จังหวัดราชบุรี
———————————————————
6. ภาคใต้ / 14 จังหวัด
1.จังหวัดกระบี่
2.จังหวัดชุมพร
3.จังหวัดตรัง
4.จังหวัดนครศรีธรรมราช
5.จังหวัดนราธิวาส
6.จังหวัดปัตตานี
7.จังหวัดพังงา
8.จังหวัดพัทลุง
9.จังหวัดภูเก็ต
10.จังหวัดระนอง
11.จังหวัดสตูล
12.จังหวัดสงขลา
13.จังหวัดสุราษฎร์ธานี
14.จังหวัดยะลา